อยากมีลูก...ทำยังไงให้ท้อง
ตั้งท้องยุคนี้ดูสวนกระแสเหมือนกันนะครับ
เพราะใครๆ ต่างก็แห้งเหี่ยวไปตามๆ กัน แต่การมีลูกเป็นลงทุนระยะยาว
บางคนอาจจะคิดว่าอายุก็มากแล้วรอไปอีกก็ไม่เห็นอนาคต
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเป็นยุคทองของไทยอีก ปล่อยให้ท้องซะตอนนี้ หมดเรื่องหมดราว..
บางคนมีลูกมาแล้วก็อยากมีไปทีเดียวเลย เลี้ยงโตขึ้นมาด้วยกัน
ใช้ของร่วมกันได้ ถือเป็นการประหยัดอีกด้วย เหนื่อยทีเดียวจบกันไปเลย
มีลูกห่างกันเกินไปก็ไม่ดี ปกติแล้วควรมีลูกห่างกันประมาณ 2-3
ปีกำลังดี ถ้าห่างไปกว่านี้ลูกจะต่างวัยกันมากเกินไป
ลูกคนโตจะเริ่มติดเพื่อนมากกว่าที่จะสนใจน้องซะแล้ว
ก็เลยอาจทำให้พี่กับน้องไม่ค่อยสนิทกันก็ได้.....
เอาล่ะ...จะยังไง ถือว่าตอนนี้ตัดสินใจจะมีลูกอีกคนก็แล้วกัน
ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้างล่ะ
ก่อนที่เราจะมีลูกอีกคนก็ต้องคิดกันก่อนว่าจะเลี้ยงไหวหรือเปล่า
มีเวลาเลี้ยงหรือเปล่า มีเงินเพียงพอที่จะเลี้ยงดูลูกได้ดีหรือเปล่า
เดี๋ยวนี้นะแค่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปยี่ห้อฝรั่ง ไทยใช้ ห่อนึงก็ตั้งห้าร้อยว่าบาทแล้ว
เลี้ยงลูกอย่างเดียวเงินเดือนก็หมดซะแล้ว
คงต้องเก็บหอมรอมริบไว้ล่วงหน้าสักหน่อยนะครับ
ก่อนจะเริ่มตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย
จึงควรไปพบคุณหมอ แล้วบอกคุณหมอไปตามตรงเลยนะว่า ตอนนี้อยากมีลูกแล้ว
คุณหมอจะให้คำแนะนำ แล้วก็ตรวจร่างกายคุณแม่ว่ามีอะไรผิดปกติ
ที่สำคัญก็ต้องตรวจภายใน เช็คมะเร็งปากมดลูก
ตรวจดูปีกมดลูกว่ามีก้อนเนื้อหรือซีสต์อะไรผิดปกติหรือเปล่า หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล
ก็จะได้รีบรักษาให้หายเสียก่อน ดีกว่ามาเจอความผิดปกติเอาตอนท้อง
ซึ่งก็จะทำให้รักษายาก
เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อเด็กในท้องอีกคนด้วยที่สำคัญและลืมไม่ได้คือ
ต้องตรวจเลือดด้วย เพื่อหาโรคเอดส์ ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี หัดเยอรมัน
ตอนนี้ไว้ใจใครได้ง่ายๆ ซะเมื่อไหร่ล่ะ...
เอาเป็นว่าตอนนี้ก็พร้อมเต็มที่ ทุนทรัพย์พร้อม ร่างกายพร้อม
มดลูกพร้อม สามีพร้อม ตอนนี้ก็ถึงภาคปฏิบัติทำให้ท้องซะที!
มูกไข่ตก..ช่วงนี้สำคัญเชียวล่ะ
เมื่อเราตั้งใจจะมีลูก ควรให้ความสนใจกับรอบเดือนของตัวเองมากๆ
หน่อย ต้องคอยจดไว้ว่าประจำเดือนมาเมื่อไหร่ หมดเมื่อไหร่ มาสม่ำเสมอดีหรือเปล่า
ที่ต้องให้จด เพื่อจะได้รู้ว่าไข่จะตกเมื่อไหร่นั่นเองครับ
ในผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาทุก 28 วัน
ถ้านับว่าประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบ
ไข่ก็จะตกในวันที่ 14
แต่สำหรับผู้หญิงบางคนประจำเดือนอาจมาทุก 30 วัน
ไข่ก็จะตกในวันที่ 16 ของรอบ หรือประจำเดือนมาทุก 32
วัน ก็จะตกไข่ในวันที่ 18 ของรอบ คือเกิน
28
วันไปเท่าไหร่ก็บวกกับวันที่ไข่ตกไปเท่านั้นช่วงที่มีไข่ตกจะสังเกตได้ว่าจะมีตกขาวเป็นมูกใสๆ
ลื่นๆ เฉอะแฉะออกมาเยอะ อย่างนี้เรียกว่า "มูกไข่ตก"
ถ้าลองใช้มือจับเอามูกนี้ติดมือออกมาก็จะพบว่ามันใส ลื่น แล้วก็สามารถจับยืดได้กว่า
10 เซนติเมตรโดยไม่ขาดจากกัน แตกต่างจากมูกตอนช่วงอื่นๆ ที่เหนียว
ข้น แล้วก็ไม่สามารถจับยืดได้มากนักถ้าเจอมูกออกมาอย่างนี้ จัดการได้เลยครับ!
แต่สำหรับผู้หญิงบางคนประจำเดือนอาจมาไม่ค่อยสม่ำเสมอเป็นปกตินัก
บางทีก็ 30 วัน 35 วัน บางทีหายไป
2 เดือนเลยก็มี กรณีนี้การนับวันก็คงจะลำบากนิดหน่อย
ก็คงต้องใช้วิธีสังเกตมูกไข่ตกช่วยด้วย
.....ในช่วงที่มีไข่ตกนี้ บางคนก็อาจมีอาการปวดถ่วงๆ
ระบมในท้องน้อย ปวดร้าวออกไปข้างหลัง อาการนี้ก็เกิดจากรังไข่เป่งบวม
มีไข่ตกแตกทะลุออกมา
บางทีก็มีเลือดไหลซึมออกมาจากรังไข่ไปขังอยู่ในอุ้งเชิงกรานก็ทำให้เกิดการปวดท้องน้อยได้
ผู้หญิงบางคนก็มีอาการนี้นานๆ ที บางคนก็เป็นบ่อย ส่วนมากแล้วอาการปวดท้องน้อยนี้
จะหายได้เองใน 1-2 วัน
ผู้หญิงบางคนพอมีอาการระบมในท้องน้อยอย่างนี้ ก็ไม่อยากที่จะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้
เลยไม่ท้องซะที
ยุ่งกันถี่..ใครว่าจะมีลูกง่ายๆ
นอกจากนี้แล้วก็เป็นหน้าที่ของผู้ชายบ้างล่ะ.....ผู้ชายก็ต้องทำหน้าที่ของตัวให้ตรงช่วงกับที่มีไข่ตก
แต่บางคนกลับขยันเกินไป ช่วงสัปดาห์ที่มีไข่ตกก็จัดการทำการบ้านทุกวัน วันละหลายๆ
นัด เรียกว่าถล่มปูพรมกะให้ติดให้ได้ ระบมอย่างนี้ไม่ได้เกิดจากไข่ตกนะครับ
กลายเป็นยุ่งกันมากจนระบมซะมากกว่า.....สุดท้ายก็ไม่ติดครับ!
การมีอะไรกันถี่มากเกินไปก็ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์น้อยลง หลายๆ
คนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่ายิ่งยุ่งกันถี่ๆ ยิ่งมีโอกาสท้องได้ง่ายขึ้น
ถ้าคุณผู้ชายรู้จักตัวอสุจิลูกหลานของคุณเองก็จะเข้าใจเองนะครับ
ตัวอสุจิสร้างออกมาจากลูกอัณฑะทั้งสองข้าง
โดยค่อยๆเติบโตจากตัวอ่อนเบบี้จนโตเต็มที่เป็นหนุ่มใหญ่วัยผสมพันธุ์ ใช้เวลาประมาณ
48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน
หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ แก่ตัวลง หมดเรี่ยวหมดแรงไปในที่สุด....ดังนั้นหากมีการปล่อยตัวอสุจิออกไปทำหน้าที่ถี่ๆ
ทุกวันทุกคืน ตัวอสุจิที่ออกไปยังโตไม่ทัน เป็นแค่ตัวอ่อนเบบี้ ยังทำอะไรไม่เป็น
ก็เหมือนเกณฑ์เด็กไปเป็นทหาร มันไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุดหรอกครับ
ยุ่งกันบ่อยแค่ไหน..มีสิทธิ์
"ติดลูก"
อัตราการมีเพศสัมพันธ์ที่กำลังดีก็คือ วันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ
4
ครั้ง ซึ่งตัวอสุจิ ที่ปล่อยออกไปจะเป็นตัวที่โตเต็มที่แข็งแรง
แหวกว่ายเข้าไปได้ดีจนถึงปลายทาง ปกติแล้วตัวอสุจิจะใช้เวลาเดินทางแค่ไม่ถึง
5 นาที นับตั้งแต่ปล่อยออกมาเข้าไปในปากมดลูก ผ่านตัวมดลูก
แล้วแบ่งกันวิ่งเลี้ยวเข้าไปในปีกมดลูก จนวิ่งเข้าไปเจอไข่ที่ล่องลอยอยู่ในปีกมดลูก
แต่มีแค่ตัวเดียวที่สามารถเจาะไข่แดงเข้าไปได้จริงๆ แล้ว
ตัวอสุจิมันไม่รู้หรอกครับว่าต้องวิ่งเข้าไปยังไง ตรงไปเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา
ไม่มีป้ายคอยบอกทาง ไม่มีแผนที่ดูเอาไว้ก่อน
แต่เพราะตัวอสุจิที่ปล่อยออกมามีจำนวนมากมาย ปล่อยออกมาทีนึงก็หลายร้อยล้านตัว
แต่ละตัวต่างวิ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ บางตัววิ่งออกมาข้างนอก บางตัวก็วิ่งวนไปวนมา
มีบางตัววิ่งเข้าไปในปากมดลูกได้สำเร็จ และมีแค่ประมาณ 5
พันตัวเท่านั้นเองที่สามารถวิ่งไปถึงไข่ แต่ก็มีหนึ่งในห้าพันนี้เท่านั้น
ที่เจาะเข้าไปในไข่เกิดการปฏิสนธิได้สำเร็จผู้หญิงบางคนพอมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว
ก็รีบล้างออกทันทีจนหมด ถ้าอยากมีลูกไม่ควรล้างออกนะครับ ให้นอนหงายนิ่งๆ อย่างน้อย
5 นาที เพื่อไม่ให้น้ำอสุจิไหลออกมาข้างนอกหมดเสียก่อน
ถ้าอยากมีลูกแล้ว น้ำอสุจิมีค่าทุกหยาดหยดเลยล่ะครับ
น้ำอสุจิของผู้ชายเราไม่ใช่เป็นของที่สกปรก
แต่ที่จริงแล้วมันสะอาดปราศจากเชื้อโรคใดๆ ทั้งสิ้น
ยกเว้นในกรณีที่ผู้ชายคนนั้นเป็นกามโรคนะครับ
ดังนั้นหากมันตกค้างอยู่ภายในช่องคลอดชั่วข้ามคืนก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียใดๆ
ตามมาหรอกครับ
ตรวจรับผลงาน
คราวนี้ก็ต้องรอดูผลงาน เมื่อถึงครบกำหนดที่ต้องมีประจำเดือนมา
แต่กลับเงียบจ้อยหายไปเฉยๆ ก็ส่อแววว่าจะตั้งครรภ์แล้ว ก็ให้ตรวจครรภ์ด้วยตนเองก่อน
หาซื้ออุปกรณ์สำหรับตรวจได้จากร้านขายยาทั่วไป
ปัสสาวะที่ใช้ตรวจก็ควรเป็นปัสสาวะในตอนเช้า
เพราะว่ามันจะมีปริมาณฮอร์โมนออกมาค่อนข้างเยอะ ตรวจเจอได้ง่ายกว่า สายๆ บ่ายๆ
กินโน่นกินนี่ ปัสสาวะอาจจะเจือจางลงแล้วตรวจไม่เจอก็ได้
ถ้าตรวจครรภ์แล้วปรากฏว่า "ท้อง"
ก็ถือว่าสำเร็จตามหลักสูตรถ้าตรวจดูแล้ว "ไม่ท้อง" ให้รออีกหน่อย รออีก 7
วันประจำเดือนยังไม่มาก็ให้ตรวจปัสสาวะซ้ำอีกครั้ง
แม่บางคนมาตรวจเจอเอาครั้งหลังก็มีเหมือนกัน...ต้องลุ้นกันหน่อยครับ
สำหรับบางคู่เพียรพยายามมาครบทุกสูตรแล้ว ก็ยังไม่ท้อง
มีเพศสัมพันธ์กันตามปกติไม่ได้ว่างเว้น แล้วก็ไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใดๆ ด้วย
หากเกิน 1 ปีไปแล้ว
ก็ให้ไปปรึกษาคุณหมอได้เลยครับ..คุณหมอสูติฯ
ที่รักษาเกี่ยวกับการมีบุตรยากนั่นแหละครับ
ที่มา
: ModernMom