สำคัญที่ใจ
โดย:
รศ.นพ.อัมพล สูอำพัน
ผู้หลักผู้ใหญ่มักจะสอนและเตือนใจเราให้ได้คิดเสมอๆ อยู่ข้อหนึ่งว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างสำคัญที่ใจ อะไรๆ ก็ตามจะมีใจเป็นนาย มีกายเป็นบ่าว
ดังนั้นจะสุขจะทุกข์อย่างไรจึงอยู่ทึ่ใจว่าเรารับรู้อย่างไร ...
ประเด็นนี้เป็นที่มาของบทความนี้ ที่ให้ชื่อว่า "สำคัญที่ใจ"
มีคนมาพูดคุยกับผมว่า ถ้าเขาคิดอยากจะไป
"second honeymoon"
หรือดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ เขาควรจะไปหาที่ไหนดี
จึงจะหวานซึ้งซาบซ่าเท่าๆ กัน หรือให้รู้สึกมากกว่าการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ครั้งแรก
คนที่ถามคงเห็นว่าผมแก่แล้ว น่าจะมีประสบการณ์ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์มาหลายครั้ง
น่าจะบอกเขาได้ว่า ควรจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหนดี
ผมตอบเขาว่า จะไปที่ไหนก็ได้สำคัญที่ใจของคุณทั้งคู่
เพราะถ้ามีใจที่ดีต่อกัน รักกัน ปรารถนาดีต่อกัน
ตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากต่อกันตลอดไป ดัง "คำมั่นสัญญา"
ที่เคยบอกกันไว้ตั้งแต่การบอกรักครั้งแรกแล้วละก็
จะอยู่ที่บ้านหรือจะไปที่รีสอร์ตไหนๆ มันก็เหมือนกัน
ยกเว้นว่าจะเป็นการไปเปลี่ยนสถานที่เพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจก็ควรหาสถานที่ๆ
มีความสงบ สบาย ไปแล้วมีความสุข
ถ้าอย่างนี้เราก็ต้องพิถีพิถันเลือกสถานที่กันหน่อยก็จะดี
ในทางจิตวิทยามีการศึกษาเกี่ยวกับคู่รักที่ปักใจมาอยู่ร่วมกันนั้น
สามารถแบ่งออกเป็น
2 กลุ่มใหญ่ๆ
ตามความรู้สึกในเนื้อแท้แห่งจิตใจครับ
เสน่หา...รักเร่าร้อน
กลุ่มที่หนึ่งคือ กลุ่มที่คบหากันและมาอยู่ร่วมกันในลักษณะของความรักแบบเร่าร้อน
เป็นเรื่องเสน่หา เป็นความหลงใหล อาจจะเป็นความหลงใหลในความรักแบบการตกหลุมรัก
หรืออาจเป็นความถวิลหาเชิงกามารมณ์ หรืออาจจะเป็นทั้งตกหลุมรักร่วมกับกามารมณ์ก็ได้
กลุ่มนี้ในตำราจิตวิทยาเขาเรียกว่าเป็นกลุ่ม
passionate
relationship
สัมพันธภาพแบบเร่าร้อนเสน่หานี้ถ้ามองจากภายนอกหรือพิจารณาแบบเผินๆ จะดูว่าเข้มข้น
จริงจัง ดูเหมือนว่าเป็นรักที่ดูดดื่มแท้จริง
จริงๆ
แล้วก็หนีธรรมชาติของความจริงไปไม่ได้
ว่าทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลายไปหมดได้
ดังนั้นทุกคู่ที่เริ่มด้วยความเสน่หาเร่าร้อนเชิงกามารมณ์แต่อย่างเดียวโดยไม่มีองค์ประกอบอื่นที่จะยึดเหนี่ยวสร้างสรรค์ให้อยู่กันต่อไปได้แล้ว
ความเร่าร้อนถวิลหาเชิงกามารมณ์ย่อมหมดไป หมดไปพร้อมกับสัมพันธภาพ
หมดไปพร้อมกับความรู้สึกที่เคยผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง
หมดไปพร้อมกับความรู้สึกที่จะอยู่ด้วยกัน และในที่สุดก็ต้องแยกจากกัน
เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ
กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่ในตำราฝรั่งเขียนไว้ คือกลุ่มที่เรียกว่า
companionship
เป็นกลุ่มที่สนิทกันอย่างมิตรภาพ
มีความเป็นเพื่อนสนิทและตั้งใจที่จะมีมิตรภาพอันยาวนาน
มีความเข้าใจกันแบบช่วยเหลือกัน พึ่งพาซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนคู่คิด
เป็นมิตรคู่ใจ
จนบางครั้งในเมืองนอกมีการทดลองมาอยู่ด้วยกันใช้ชีวิตด้วยกันแบบที่เรียกว่า
companionate ซึ่งเป็นการทดลองอยู่ด้วยกันก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน
สัมพันธภาพแบบนี้เป็นสัมพันธภาพที่มองชีวิตอยู่ในความเป็นจริง
ไม่ได้ถือเรื่องของความเร่าร้อน เสน่หาและความถวิลหาเป็นเรื่องสำคัญ
คู่รักที่มาอยู่ด้วยกันแบบ
companionship
ก็น่าจะเป็นคู่ของสัมพันธภาพที่จะมีความยั่งยืนนานได้
4
เคล็ดลับ...ถนอมรักยืนนาน
คำถามมีอยู่ว่าคู่รักคู่ชีวิตของท่านผูกพันกันแบบไหน
ถ้าผูกพันกันแบบเสน่หาเพียงอย่างเดียวก็มีสิทธิจะจืดจางลงได้ไม่ช้าก็เร็ว
แต่ถ้าผูกพันกับแบบเพื่อนสนิทด้วยมิตรภาพอันดีก็เป็นสถานการณ์ที่ยั่งยืนกว่า
อย่างไรก็ตามคู่สมรสส่วนใหญ่มักจะเริ่มมีความผูกพันเบื้องต้นแบบเสน่หา
และต่อมาจะพัฒนาเป็นแบบที่มีความรู้สึกเป็นมิตรภาพ เป็นเพื่อนสนิท
และมั่นใจที่จะอยู่กันให้นานแสนนาน
คู่รักที่ดำเนินมาตามทิศทางนี้จะพบว่าเป็นคู่ที่มีความสุข และราบรื่น
แต่ด้วยความเป็นปุถุชนที่เรายังมีกิเลสและความต้องการเชิงกามารมณ์อยู่
ดังนั้นถ้าชีวิตคู่เป็นชีวิตที่ดำเนินไปอย่างมีความเป็นมิตรภาพ
แต่เสริมด้วยเสน่หาอาลัยด้านกามารมณ์ให้เป็นที่พึงพอใจต่อกันอย่างคงเส้นคงวา
ชีวิตคู่ก็จะแนบแน่น ผูกพัน ซื่อตรง และห่วงพะวงถึงกันเสมอ
มีปราชญ์ทางจิตวิทยาท่านให้ข้อคิดไว้ว่า
"ความรักและกามารมณ์แม้จะมีความสำคัญต่อชีวิตคู่เป็นอย่างมากก็ตาม
ก็ไม่ได้เป็นสิ่งค้ำประกันว่าจะทำให้ชีวิตคู่สามารถยั่งยืนได้ตลอดไป
นั้นหมายความว่านอกจากความรักและกามารมณ์แล้ว ชีวิตคู่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ
อีก ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญคือ ความคิดและปัญญาที่ใช้ในการครองชีวิตคู่
คู่ชีวิตที่จะมีความปรองดองกันอย่างราบรื่นนั้น
มีองค์ประกอบที่สำคัญกลุ่มหนึ่งซึ่งประกอบด้วย
4
ข้อหลักคือ
1.
การรู้จักให้อภัยและมีความอดทนต่อเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยเหตุผลและปัญญา
2.
การใช้วาจาที่อ่อนโยนสุภาพและไม่ทำให้ผู้ฟังต้องทุกข์ใจ
3.
การมีพฤติกรรมและการแสดงออกที่สุภาพรวมทั้งมีความตั้งใจและพร้อมใจที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
4.
ข้อสุดท้ายคือความคงเส้นคงวาในอารมณ์และการยึดมั่นสัญญาอย่างไม่เสื่อมคลาย
องค์ประกอบ 4
ข้อหลักนี้จะเป็นโซ่ทองคล้องใจยึดเหนี่ยวให้ชีวิตคู่มีความยั่งยืนถาวร
ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน
ถ้าท่านมีความรักและเสน่หากับคู่รักของท่านพร้อมองค์ประกอบอื่นๆ
ดังที่ผมเขียนมาแล้ว ท่านก็สามารถทำให้ทุกเวลาที่อยู่ด้วยกันมีความสุข
และจะอยู่ที่ไหนก็เป็นเวลาแห่ง
honeymoom
ได้ โดยไม่จำเป็นต้องแสวงหา honeymooon
ครั้งที่สองหรือสามหรืออีกต่อๆ ไป
ที่มา
: ModernMom