นับวันไข่ตก นับอย่างไรกันแน่
โดย ธีวรา
พงษ์นิมิตร
นักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการเด็กหลอดแก้ว
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย ที่คงมีคำถามเช่นนี้อยู่ในใจ
คุณจะทราบได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ไข่จะตก
ต้องมีเพศสัมพันธ์กันช่วงไหน จึงจะมีโอกาสในการตั้งครรภ์สูงสุด
แต่ก่อนจะเริ่มนับวันไข่ตก ลองมาทำความเข้าใจกับประจำเดือนกันก่อนค่ะ
ประจำเดือน
เกิดจากการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก โดยปกติรอบเดือนจะมาทุก
28
± 7 วัน นั่นคือบางคนอาจมีรอบเดือนสั้นทุก 21
วันหรือรอบเดือนยาวสุด 35 วัน
ระยะเวลาหลังจากไข่ตกจนถึงวันแรกของการมีประจำเดือนจะค่อนข้างคงที่ที่
14 ± 2 วัน
ดังนั้นรอบเดือนยาวหรือสั้นจึงขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ทำให้ไข่เจริญเติบโตพร้อมปฏิสนธิ
คุณควรจดวันแรกที่มีประจำเดือนไว้ทุกครั้ง
เพื่อเก็บเป็นข้อมูลในการคาดคะเนวันไข่ตก
วันที่ควรมีเพศสัมพันธ์
หรือช่วยในการคุมกำเนิดได้หากไม่ต้องการมีบุตร
ประจำเดือน
ถูกควบคุมโดยฮอร์โมน
FSH ( Follicle Stimulating Hormone ) และ LH (
Luteinising Hormone )
ซึ่งหลั่งมาจากต่อมใต้สมอง ในช่วงแรกๆของการมีประจำเดือน FSH
จะหลั่งออกมามาก เพื่อกระตุ้นให้ไข่ และถุงไข่ (
Follicle ) มีการเจริญเติบโต ครั้งแรกๆจะมีไข่โตขึ้นมาหลายฟอง
แต่จะมีไข่เพียง 1
ฟองเท่านั้นที่ถูกคัดเลือกให้มีการเจริญเติบโตต่อไป
ส่วนฟองที่เหลือจะฝ่อไม่มีการเจริญต่อ
ในขณะที่ไข่เจริญเติบโต ถุงไข่จะสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน (
Estrogen ) ซึ่งทำหน้าที่สร้างเยื่อบุผนังโพรงมดลูก
ช่วงกลางรอบเดือนใกล้ไข่ตก ต่อมใต้สมองจะหลั่ง LH
ออกมาเป็นจำนวนมาก
มีหน้าที่ช่วยให้ไข่เจริญเติบโตเต็มที่พร้อมที่จะปฏิสนธิ ถุงไข่แตกออก
ไข่หลุดออกมาจากถุงไข่ ซึ่งเรียกว่า
ตกไข่
นั่นเอง
ไข่จะถูกจับเข้าไปในท่อนำไข่
และถุงไข่ที่ยังคงเหลืออยู่เรียกว่า คอร์ปัสลูเตียม ( Corpus
luteum )
จะสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ( Progesterone )
เพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกให้พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน
ไข่ที่ตกมาจะเดินทางเข้าสู่ท่อนำไข่ หากมีเชื้ออสุจิเข้าไปพบ
จะเกิดการปฏิสนธิและแบ่งตัวเป็นตัวอ่อน
ตัวอ่อนจะเดินทางมายังโพรงมดลูกที่เตรียมไว้แล้ว และฝังตัวเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น
ใช้เวลาเดินทางเข้าโพรงมดลูก 3 วัน
ใช้เวลาฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูกอีก 3 วัน
คอร์ปัสลูเตียมจะทำงานต่อไป
แต่หากไม่เกิดการปฏิสนธิ คอร์ปัสลูเตียมจะหยุดสร้างฮอร์โมน
เยื่อบุโพรงมดลูกจะลอกหลุดออกมาพร้อมเลือดเป็นประจำเดือน
การนับรอบเดือน
จะนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนจนถึงวันแรกของการมีประจำเดือนรอบถัดไป
ในผู้หญิงที่มีรอบระดูสม่ำเสมอจึงสามารถคำนวณวันตกไข่ได้
โดยจดวันแรกที่มีประจำเดือน แล้วนับย้อนหลังไปอีก 14
วัน นั่นคือวันที่ไข่ตกในรอบเดือนนั้น หรือง่ายๆก็คือ เกิดการตกไข่ 14
วันก่อนที่จะมีประจำเดือน เช่น
รอบเดือน 28 วัน จะตกไข่วันที่ 14
ของรอบเดือน, รอบเดือน 30
วัน จะตกไข่วันที่ 16
ของรอบเดือน คนที่มีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอมักจะมีปัญหาเรื่องการตกไข่
ปัจจุบันมีชุดทดสอบการตกไข่ โดยตรวจวัดระดับ LH
จากปัสสาวะช่วยให้ทราบวันตกไข่ได้แม่นยำ