อาการและการวินิจฉัยการตั้งครรภ์
โดย พล.ต.รศ.นพ.ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุล
และทีมแพทย์ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
1. อาการที่คิดว่าน่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์
คือ
1.1 ขาดประจำเดือน
1.2 คลื่นไส้ เวียนศีรษะ
1.3 เต้านมขยาย
1.4 ปัสสาวะบ่อย
1.5 หิวบ่อย
1.6 อ่อนเพลีย
1.7 ผิวคล้ำขึ้น
1.8 ความรู้สึกว่ามีเด็กดิ้นในท้อง
ข้อนี้หมายความว่าอาจมีการตั้งครรภ์ หรือไม่มีการตั้งครรภ์ก็ได้
ต้องรอดูการเปลี่ยนแปลงต่อไปหรือตรวจเพิ่มเติม
2. อาการที่เป็นไปได้มากขึ้นว่ามีการตั้งครรภ์
เมื่อแพทย์ตรวจพบต่อไปนี้
2.1 หน้าท้องโตขึ้น
2.2 ตรวจพบว่ามดลูกโตกว่าปกติ
2.3 พบการเปลี่ยนแปลงที่ปากมดลูก คล้ำขึ้น
นุ่มขึ้น
2.4 มีการแข็งตัวของก้อนในท้องที่คลำได้เป็นบางระยะ ๆ บางช่วง
บางตอน
2.5 คลำพบได้คล้ายอวัยวะของเด็กในท้อง
2.6 ตรวจฮอร์โมนการตั้งครรภ์จากการเจาะเลือด
หรือการตรวจปัสสาวะเป็นผลบวก
ข้อนี้หมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการตั้งครรภ์
แต่ให้แน่ใจ 100%
ยังไม่ได้ต้องมีข้อมูลอื่นประกอบ
และต้องมีการตรวจเพิ่มเติมให้มั่นใจเช่นกัน
3. สิ่งที่ตรวจพบ
มั่นใจได้ว่าตั้งครรภ์แน่นอน
3.1 ตรวจได้ยินเสียงหัวใจเด็กที่ความถี่แตกต่างจากชีพจรแม่
3.2 ตรวจพบว่ามีเด็กดิ้นโดยการคลำทางหน้าท้อง
3.3 ตรวจพบว่ามีทารกในครรภ์
จากการทำอัลตราซาวนด์ หรือ (พบโดยบังเอิญ)
จากการทำเอ็กซ์เรย์หน้าท้อง
ข้อนี้หมายความว่าให้ความมั่นใจได้ว่ามีการตั้งครรภ์
การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
ปัจจุบันมีแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปที่ร้านขายยาแผนปัจจุบัน
และมักมีเอกสารกำกับยาอธิบายการใช้และสรรพคุณของ test
ว่าสามารถตรวจได้ตั้งแต่เริ่มขาดประจำเดือน
โดยอาศัยการเกิด antigen-antibody complex
ของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (BHCG)
แล้วไปทำให้สารเคมีเกิดสีขึ้นที่แถบ
ตามทฤษฎีแล้วการตรวจถ้าทำให้ถูกวิธี
และแผ่นทดสอบไม่เสื่อม (ซึ่งผู้ซื้อควรดูการเก็บของร้านขายยา
และวันหมดอายุที่กำกับไว้
รวมถึงวิธีใช้ในเอกสารกำกับยา)
ผลการทดสอบจะได้ความแม่นยำถึง 97%
แต่เคยมีการสำรวจวิจัยที่อเมริกา พบว่า เมื่อทำกันเองแล้ว
ได้ผลลบลวงถึง 25% (ตั้งครรภ์แต่ผลการทดสอบว่าเป็นผลลบ)
และมีคนสนใจอ่านวิธีทำอย่างละเอียดเพียง 1
ใน 3 ของผู้ที่เอามาใช้
บางรายงานกล่าวว่า
ถ้าทดสอบว่าเป็นผลลบจะไม่ตั้งครรภ์จริง 56% (ถูกต้องตรงกัน
56%) และเมื่อได้ผลบวก
ตั้งครรภ์จริง 83%